แก๊งค้ามนุษย์ขูดรีดค่าหัวโรฮีนจาหัวละ 1.5 แสน ค่า "ที่นั่ง" ไปประเทศที่ 3 กลับโดนเททิ้งไว้กลางทาง
แก๊งค้ามนุษย์ขูดรีดค่าหัวโรฮีนจาหัวละ 1.5 แสน ค่า "ที่นั่ง" ไปประเทศที่ 3 กลับโดนเททิ้งไว้กลางทาง
ขบวนการค้ามนุษย์ เททิ้งโรฮีนจาจากประเทศอินเดียเกือบครึ่งร้อยไว้กลางทาง เจอด่านตรวจ บนถนนเอเชีย พื้นที่ สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ขณะนำพาข้ามแดนไปมาเลเซีย ต้อนลงจากรถแล้วเผ่นหนีแน่บ ทุกคนได้หลบซ่อนตัวในสวนยางของชาวบ้าน เผยขายบ้าน ขายวัวควายจนไม่มีที่อยู่เพื่อ จ่ายค่า "ที่นั่ง" พาไปประเทศที่สามถึงหัวละ 1.5 แสน
แฉแก๊งค้ามนุษย์รีดโรฮีนจาหัวละ 1.5 แสน ค่า "ที่นั่ง" ไปประเทศที่ 3 เวลา 14.10 น. วันที่ 16 มีนาคม 2566 พ.ต.ท.พลากร กิจวิจิตร สว.(สอบสวน) สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากนายจักรี ธรณี อายุ 38 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ ว่า ได้พบคนแปลกหน้าเป็นจำนวนมากทำให้สงสัยว่าเป็นชาวต่างชาติหรือต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง โดยกลุ่มคนดังกล่าว หลบซ่อนตัวอยู่ในสวนยางภายในหมู่บ้าน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูวศิษฏ์ วังแก้ว ผกก. พ.ต.ท.เรวัตร แก้วจำรัส รองผกก. นำกำลังไปตรวจสอบในพื้นที่พบนายจักรี ผู้ใหญ่บ้าน นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสวนยางพารา ซึ่งมีชาวต่างชาติอยู่จำนวน 42 คน เป็นชาย 32 คน หญิง 10 คน อยู่ในสภาพอิดโรยไม่มีเรี่ยวแรง สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า กลุ่มชาวต่างชาติเหล่านี้เป็นชาวโรฮีนจาตากประเทศอินเดียทำการหลบหนีเข้าไปที่ประเทศพม่า และลักลอบเข้ามาในประเทศไทย โดยทำการเข้ามาทางจังหวัดระนอง อาศัยรถยนต์กระบะมีรั้วสูงจำนวน 2 คันเป็นพาหนะ มาตามถนนเอเชียสาย 41 มุ่งหน้าไปยังชายแดนประเทศมาเลเซีย มีเป้าหมายจะลักลอบเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย ปรากฏว่าเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่กำลังเดินทางมาถึงท้องที่ อ.จุฬาภรณ์ พบว่าบนถนนเอเชียสาย 41 ด้านหน้า มีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งอยู่คนขับรถรถกระบะทั้งสองคัน จึงได้เลี้ยวยูเทิร์นรถ และขับหลบเข้าไปที่สวนยางพาราของชาวบ้าน ใกล้กับถนนเอเชีย แล้วทำการไล่ชาวต่างด้าวทั้งหมดให้ลงไปจากรถ จากนั้นคนขับรถทั้งสองคัน ได้ขับรถหลบหนีไป จนกระทั่งวันนี้ มีชาวบ้านไปพบคนกลุ่มนี้จึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านได้รับทราบ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวล่าสุด พ.ต.อ.กรังสรรค์ สุขเกื้อ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปเชิญตัวล่ามชาวอินเดีย มาร่วมสอบถามปากคำชาวโรฮีนจา ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากปากของชาวต่างชาติว่า ส่วนใหญ่ได้ใช่เงินจ่ายค่าที่นั่งเพื่อลักลอบเข้าประเทศ ให้กับนายหน้าคิดเป็นเงินไทย รายละ หรือหัวละ หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท เป็นค่าที่นั่งในรถหลบพาหลบหนีข้ามประเทศไทยไปยังประเทศมาเลเซีย สำหรับเด็กและผู้หญิงจะต้องจ่ายประมาณ เก้าหมื่นบาท ถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทเช่นเดียวกัน โดยชาวโรฮีนจา ให้ปากคำว่า ได้ขายวัว ขายควาย หรือขายที่ดิน รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ ในหมู่บ้านที่อาศัยอยู่
เพื่อที่จะเอาเงินมาให้กับนายหน้าที่จะเป็นผู้ติดต่อผู้นำพาข้ามประเทศ โดยหลายรายญาติได้หลบหนีออกมาก่อนแล้ว ทั้งจากที่ประเทศอินเดีย และประเทศพม่า ได้ไปอยู่ที่ประเทศที่สาม ในบางรายที่ยอมขายทรัพย์สินของตน เพื่อที่จะไปทำงานและเพื่อพบหน้าสมาชิกในครอบครัวที่หลบหนีไปได้ก่อนหน้านี้แล้ว และอีกจำนวนหนึ่ง หวังไปตายเอาดาบหน้า ดีกว่าอดกลั้นฝืนทนอยู่แบบถูกข่มเหงรังแกไปตลอดชีวิต เหมือนพวกตนไม่ใช่มนุษย์อยู่ในแผ่นดินเดิมที่จากมา พวกเขาระบุว่า "การอาศัยอยู่ในอินเดีย หรือพม่า ของกลุ่มชนชั้นอย่างพวกเขา ไม่ได้รับการรองรับหรือรับรอง สถานภาพ สวัสดิการใดๆ รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทุกอย่าง"ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดช่วงพลบค่ำของวันนี้ รถบรรทุกหกล้อจากกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางมารับตัวชาวโรฮีนจาทั้งหมดทั้งหญิงและชายไปสอบปากคำ ดำเนินการด้านคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย และตามหลักมนุษยธรรมที่เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศต่อไป ที่กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน ต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ตามข้อสั่งการของ นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผวจ.นครศรีธรรมราช และ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น