สถานการณ์ราคาทองคำพุ่งพรวด 54 วัน ขึ้นราคารวมจำนวน 2,750 บาท ควรรอจังหวะ หรือเทขายทำกำไร


       สถานการณ์ราคาทองคำยังคงมีความผันผวนจากเศรษฐกิจโลกในหลายๆ ปัจจัยด้วยกัน ทั้งความไม่แน่นอนของระบบการเงินในสหรัฐฯ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อควบคุมเรื่องของเงินเฟ้อ

       ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ประกาศลดการผลิตน้ำมันลงมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ก่อให้เกิดความเสี่ยงใหม่ต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากราคาน้ำมันมีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น ย่ิงเพิ่มแรงกดดันเงินเฟ้อออกไปทั่วโลก ส่งผลให้ราคาทองคำโลกปรับสูงขึ้น ส่วนราคาทองคำในประเทศไทยเปิดตลาดเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2566 ปรับขึ้นมามากถึง 400 บาท ทำให้ราคาทองคำแท่งขยับมาอยู่ที่บาทละ 32,450 บาท ทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติการณ์ จากเมื่อเดือน มี.ค. ปี 2565 ทำจุดสูงสุดบาทละ 32,100 บาท ส่วนเดือน มี.ค. ปี 2564 ราคาทองคำแท่งต่ำสุดบาทละ 24,450 บาท“จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” นายกสมาคมค้าทองคำ ระบุ ราคาทองคำไทยเปิดตลาดมาเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2566 ปรับราคาขึ้นมากถึง 400 บาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยราคาทองคำในตลาดโลกอยู่ที่ระดับ 2,040 ดอลลาร์สหรัฐ มาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นความวิตกกังวลความไม่แน่นอนของระบบการเงินในสหรัฐฯ ทำให้เฟดมีแนวโน้มจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อไป เพื่อฉุดให้เงินเฟ้อกลับคืนสู่เป้าหมาย 2% ล่าสุดราคาน้ำมันซาอุดีอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ลดการผลิตลง ทำให้ราคาน้ำมันมีราคาที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อไปทั่วโลก จะต้องจับตาดูราคาทองคำต่อไป เพราะค่อนข้างที่จะมีความสวิงและผันผวนสูงมากอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ในช่วง 54 วันที่ผ่านมานั้น ราคาทองคำในประเทศได้มีการปรับขึ้นรวมแล้วเป็นราคาที่ 2,750 บาท ถือว่าสูงที่สุด ส่วนโอกาสที่จะขยับขึ้นไปอีกหรือไม่นั้น หากประชาชนยังมีความไม่มั่นใจในการเทขายทำกำไรอยู่ในขณะนี้ ก็มองว่าราคาทองยังมีโอกาสที่จะปรับสูงขึ้นได้อีก แต่ต้องมีความระมัดระวังพอสมควร“ต้องคอยดูสถาบันการเงินของทั่วโลกว่าจะมีมาตรการการรับมืออย่างไรต่อไป ภายหลังแบงก์ในสหรัฐฯ และสวิตเซอร์แลนด์ ได้ล้มละลาย แต่น่าจะสามารถคลี่คลายได้ คิดว่าต้องรอดูสถานการณ์กันอีกที และถ้านักลงทุนรายย่อยต้องการที่จะทำกำไรในช่วงเวลานี้ ก็ให้เทขายไปบางส่วน และเก็บไว้บ้างเป็นบางส่วน เพราะราคาทองอาจจะปรับขึ้นบ้าง ให้ดูทีละจังหวะในระยะสั้น ไม่ใช่ในระยะยาว” จากสถานการณ์ราคาทองคำที่ปรับขึ้นยอมรับว่าในขณะนี้มีคนเริ่มนำทองมาเทขายกับร้านทองในช่วง 2 สัปดาห์นี้ ภายหลังราคาทองคำมีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหลายปัจจัย จนส่งผลให้ราคาทองคำโลกเคลื่อนไหวมีความผันผวน ซึ่งนักลงทุนต้องจับตาดูในระยะสั้น ก่อนเทขายทำกำไรที่แนวต้าน 2,035 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทิศทางการลงทุนในทองคำจะเป็นอย่างไรต่อไป “ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์” ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ได้ทำการประเมินภาพรวมของราคาทองคำในเดือน เม.ย. ยังคงต้องคอยจับตาดูประกาศตัวเลขภาคแรงงานและดัชนีเงินเฟ้อของสหรัฐฯ คาดตัวเลขอาจอ่อนตัวลงตามต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มมากขึ้น โดยดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้นสู่ระดับ 4.75-5.00% อาจกดดันภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะที่กองทุน SPDR (Standard & Poor's Depositary Receipts) กองทุนทองคำแท่งแห่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสัญญาณบวกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งสองปัจจัยเป็นแรงช่วยหนุนทองคำ ประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป หลังเฟดส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือน พ.ค.นี้ มองว่าตลาดมีความผ่อนคลายมากขึ้น คาดว่าในระหว่างสัปดาห์หากราคาทองคำย่อตัวไม่หลุดแนวรับ 1.950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจังหวะซื้อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้าน 2,000-2,030 ดอลลาร์ต่อออนซ์.




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

จากปากหมอในพื้นที่ เฝ้าระวัง 70 คนงาน เสี่ยงรับผลกระทบซีเซียม-137 ยังไม่พบการปนเปื้อนในร่างกาย

หนุ่มฝันประหลาดเหมือนเดิม 3 ครั้ง ตามไปเจอ "หินนาคราช" คาดเป็นสถาปัตยกรรมในวัฒนธรรมของเขมรโบราณ