หญิงจีน เสียชีวิตศพแรกของโลก ถอดรหัสพันธุกรรมไข้หวัดนก แพร่ในคนได้ง่าย หรือยาก
หญิงจีน เสียชีวิตศพแรกของโลก ถอดรหัสพันธุกรรมไข้หวัดนก แพร่ในคนได้ง่าย หรือยาก
วันหยุดสงกรานต์ อย่าได้ประมาทเด็ดขาด เพราะโควิดยังไม่หายไปจากโลก ไม่ใช่เพียงแค่โควิดเท่านั้นที่ต้องระมัดระวัง เมื่อมีข่าวหญิงชาวจีน วัย 56 ปี จากมณฑลกวางตุ้ง เสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H3N8 ที่พบยากในมนุษย์ เป็นรายแรกของโลก ยิ่งทำให้หลายคนมีความกังวล
ถือเป็นชาวจีนรายที่ 3 ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H3N8 ตามการเปิดเผยขององค์การอนามัยโลก เชื่อว่าน่าจะมาจากการสัมผัสสัตว์ปีกในตลาดสด และบริเวณบ้านพักมีนกป่า ก่อนล้มป่วยลงเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 66 จนมีอาการปอดอักเสบรุนแรง เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 66 และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 66 ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H3N8 พบครั้งแรกแถบอเมริกาเหนือ ในปี 2545 และเชื้อได้แพร่ไปสู่ม้า สุนัข นกน้ำ และแมวน้ำ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้แมวน้ำบริเวณชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ มีอาการปอดอักเสบ ล้มตายลงกว่า 160 ตัว ขณะที่ในคนยังไม่เคยพบการแพร่เชื้อมาก่อน กระทั่งเดือน เม.ย. และ พ.ค.ปี 2565 มีชาวจีน 2 คนได้ติดเชื้อ แต่ไม่เสียชีวิต แม้องค์การอนามัยโลกออกมาระบุว่า ไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H3N8 มีความสามารถในระดับต่ำที่จะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วระหว่างคนสู่คน แต่ต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และปี 2565 องค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) พบการระบาดของไข้หวัดนกชนิดที่มีความรุนแรงสูง (HPAI) ในต่างประเทศทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และเดือน ก.พ.ปีเดียวกัน พบสายพันธุ์ H5N1 และ H5N8 ในประเทศเวียดนาม ก่อนที่จะพบผู้ป่วยไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 จำนวน 2 ราย ในกัมพูชา เมื่อเดือน ก.พ. 2566 จากการรายงานขององค์การอนามัยโลก และในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกทั่วโลกที่ยืนยันแล้วจำนวน 900 ราย และเสียชีวิตมากกว่า 450 ศพ ส่วนที่ไทยเราไม่พบผู้ติดเขื้อไข้หวัดนก มานานกว่า 17 ปี นับตั้งแต่ปี 2549 หวั่น H3N8 กลายร่างเวอร์ชันใหม่ ติดคนง่ายขึ้นกรณีหญิงชาวจีนเสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H3N8 “ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา” ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ในฐานะนักวิจัยไวรัสวิทยา ระบุว่า ไม่ใช่เคสใหม่ที่ติดเชื้อไวรัสแล้วมีอาการปอดบวมรุนแรง แต่รักษาตัวอยู่นานจนในที่สุดเสียชีวิตลง ซึ่งตามข้อมูลผู้ป่วยมีโรคประจำตัวที่ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง และเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H3N8 เคยมีเคสที่กระโดดมาติดคนได้ แต่มีค่อนข้างน้อย ยังไม่เคยมีใครติดจนถึงขั้นเสียชีวิตมาก่อน ครั้งนี้ถือเป็นเคสแรกที่มีรายงาน “ถามว่าควรกังวลมั้ย ส่วนตัวมองว่า H3N8 ในรูปแบบปัจจุบันยังติดจากนกสู่คนได้ยากอยู่ แต่ด้วยความที่เป็นไวรัสที่มี H3 เป็นตัวนำไวรัสเข้าสู่เซลล์เจ้าบ้าน เป็นโปรตีนกลุ่มเดียวกับ H3N2 ที่แพร่กระจายในประชากรมนุษย์ทั่วโลก โอกาสที่ H3N8 จะกลายร่างเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ติดคนจะง่ายขึ้น เช่น ไปผสมกับ H1N1 หรือ H3N2 แล้วเอายีนส่วนที่ช่วยเสริมให้ไวรัสแพร่ในคนง่ายขึ้นเข้ามา ก็อาจจะสร้างปัญหาใหญ่ได้” เหตุผลเพราะเนื่องจาก H1N1 และ H3N2 ไม่จำเป็นต้องอยู่ในคน แต่สัตว์ตัวกลางอื่นๆ ก็มีไวรัสพร้อมสลับร่างอยู่เช่นกัน ยิ่งการสลับร่างในสัตว์ตัวกลางจะยิ่งน่ากังวล เพราะหน้าตาของไวรัสจะแปลกไปจากสิ่งที่คนเคยเจอหรือเคยติด ทำให้ภูมิคุ้มกันต่อไข้หวัดใหญ่ที่สร้างสมกันมา อาจช่วยป้องกันไม่ได้ หรือไม่ดี จนคาดเดาอะไรไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่จริง ทำได้แค่ถอดบทเรียน เพราะ H3N2 ยังอยู่ไม่ได้หายไป จากเมื่อ 10 กว่าปีก่อนก็เป็น H3 จากนก และเชื่อว่า H3N8 มาจากเป็ด และการสลับร่างกับ H2N2 เกิดขึ้นในหมู ไม่ใช่คน ถอดรหัสพันธุกรรม H3N8 อาจมาจากไก่ติดสู่คน ดร.อนันต์ อ้างอิงบทความล่าสุดใน The Lancet Microbe ตีพิมพ์เกี่ยวกับไวรัส H3N8 พบว่า สามารถกระโดดจากสัตว์ปีกมาติดที่คนได้ ซึ่งตรงกับข่าวที่เพิ่งพบผู้ป่วยเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว แต่งานวิจัยชิ้นนี้ไม่ได้รายงานเกี่ยวกับเคสผู้เสียชีวิตตามข่าว แต่เป็นเคสเด็ก 2 รายแรกที่พบว่าติดเชื้อ H3N8 และไม่ได้เสียชีวิต ซึ่งไวรัส H3N8 ที่พบในผู้ติดเชื้อทั้ง 3 ราย เชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ในกลุ่มเดียวกัน จากข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสเชื่อว่า H3N8 ที่ติดผู้ป่วยทั้ง 3 รายในประเทศจีน น่าจะมาจากไก่ เพราะมีการพบไวรัส H3N8 ในประชากรไก่อยู่หลายสายพันธุ์ เมื่อดูยีนของไวรัสในแต่ละตัว เพื่อสืบประวัติต้นกำเนิดของไวรัส พบว่า H3 น่าจะมาจากไวรัสของสัตว์ปีกที่มาจากโซนยุโรปแพร่มาสู่เป็ดจีนในช่วงปี 2562 ส่วน N8 มาจากไวรัสในสัตว์ปีกจากอเมริกาเหนือ เชื่อว่าเป็นนกน้ำอพยพจากรัสเซีย หรือญี่ปุ่น บินมาในปี 2563-2564 ทำให้ไวรัสจากนกทั้ง 2 กลุ่ม ไปติดสัตว์ปีกตัวกลาง ซึ่งอาจเป็นไก่ในประเทศจีนช่วงก่อนปี 2565 จนติดไวรัส H9N2 และติดไวรัสอีก 2 ชนิดพร้อมๆ กัน กลายเป็น 3 สายพันธุ์ในไก่เพียงตัวเดียว “ในไก่ตัวนั้นมีการแลกเปลี่ยนชิ้นส่วน RNA ของไวรัส กลายเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่ได้ H3, N8 และยีนอื่นๆ ของ H9N2 เรียกว่าลูกผสม H3N8 มีการแพร่กระจายต่อไปในประชากรไก่ กระทั่งกระโดดข้ามมาติดคนได้ และงานวิจัยชิ้นนี้พบว่า H3N8 ที่พบในเด็กป่วยแตกต่างจากไวรัส H3N2 ที่พบในมนุษย์ทั่วไป ใช้โปรตีนตัวรับที่จำเพาะต่อของคนแบบ 100% แทบไม่ใช้โปรตีนตัวรับของสัตว์ปีกเลย แสดงว่าไวรัสได้ปรับตัวเป็นไวรัสของคนอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว” ในการศึกษาไวรัส H3N8 สามารถใช้โปรตีนตัวรับได้ทั้งของคนและสัตว์ปีก โดยไวรัสยังชอบติดในเซลล์สัตว์ปีกมากกว่าของคน เชื่อว่ายังไม่ถึงจุดที่จะแพร่จากคนสู่คนได้ดี แต่ถ้าติดเข้าสู่คนและปรับตัวในคนได้มากยิ่งขึ้น โอกาสที่ H3N8 จะได้คุณสมบัติเหมือน H3N2 ก็เป็นไปได้เช่นกัน และการศึกษานี้ยังบอกว่า ไวรัสไข้หวัดนกที่ได้ N8 เข้ามา เช่น H5N8 และ H10N8 เคยมีรายงานพบว่าติดคนได้เช่นกัน ทำให้โอกาสที่ N8 จะไปรวมกับ HA อื่นๆ แล้วได้ไวรัสหน้าตาแปลกใหม่เพิ่มขึ้น ก็เป็นอะไรที่ต้องติดตามเช่นกัน.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น