หนังเก่า หนังดี หน้าร้อนปีนั้น ใครทำวัยเยาว์หล่นหาย

 หนังเก่า หนังดี หน้าร้อนปีนั้น ใครทำวัยเยาว์หล่นหาย


       หน้าร้อน สัญลักษณ์ที่ฮอลลีวูดมักหยิบยกมาใช้เพื่อทำให้เป็นวัยเยาว์ที่หล่นหายไป และภาพยนตร์ที่น่าจดจำ อาจจะไม่ใช่ "เรื่องบังเอิญ" ที่ทุกๆ Summer ฮอลลีวูดมักจะมี "หนังหรือซีรี่ย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฤดูร้อน" ออกมาฉายอยู่เสมอๆ ทั้งดีบ้างไม่ดีบ้าง แบบที่ร้ายๆ ก็มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นก็คือ ในบรรดา "หนังหน้าร้อน" ทั้งหลายแหล่ มักไม่ค่อยใช้ "ความร้อน" มาเป็นประโยชน์ในทางลึกอะไรมากนัก เป็นแบบตรงกันข้ามกับหนังกลุ่ม Coming-of-age ที่มักแตะเอาประเด็น "การสูญเสียวัยเยาว์" ที่หลายเรื่องมักจะใช้ "หน้าร้อน" ช่วงปิดเทอมแบบบ้านเรา "วางสาระสำคัญ" ได้อย่างน่าสนใจ ที่ไม่บังเอิญอีกแน่ๆ ก็คือ หนังกลุ่ม Coming-of-age ดูแล้วคาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวโยงกัน ระหว่าง "เด็ก-หน้าร้อน-การก้าวข้ามอะไรบางอย่าง"

       ในเดือนเมษายนเป็นเดือนที่ร้อนมากๆของกรุงเทพฯ เมื่อไรที่เวลานี้มาถึงผมมักเอาหนังเก่าๆ ที่เกี่ยวกับหน้าร้อนมาดูอย่างเช่น Stand by me, Nobody know, Little children, Betty blue และ The man on the moon หนังกลุ่มนี้ แม้จะไม่ได้ประกาศตัวว่า เป็นหนัง Summer แต่ก็มีฤดูร้อน หน้าร้อน เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญอยู่ในหนัง สำคัญถึง"ขนาดที่ว่า" มันเปลี่ยนแปรพลิกผันชีวิตของตัวละคร กันไปไกลเลยทีเดียว ผมชอบทุกเรื่องเลยครับ - แต่ถ้าต้องเลือกให้เขียนถึง ผมชอบ Stand by me กับ The man on the moon มากที่สุด ถ้า Stand by me จะเป็น "เด็กผู้ชาย" The man in the moon ก็จะเป็น "เด็กสาว" ว่ากันถึงหนังที่เด็กผู้ชายก่อน...Stand by me ทำมาจากเรื่องสั้นชื่อ The body ของ "สตีเฟน คิง" หนังเล่าเรื่องของเด็กสี่คน ที่เป็นเพื่อนวัยเยาว์ หัวหกก้นขวิดกันมา ทะลึ่งทะเล้นและทำตัวห่ามบ้างไปตามวัย วันหนึ่ง - ทั้งสี่คนได้ข่าวว่า มีการพบศพผู้ชายปริศนาที่ตายอยู่ในป่าลึก ถ้าใครพบมันก่อน จะมีรางวัล เป็นฮีโร่และอย่างแน่นอน ใครๆ ก็ต้องกล่าวขวัญถึง "ความกล้าหาญ" พวกเขานัดกันออกตามหา โดยออกไปในบ่ายวันศุกร์ การเดินทางของเด็กกลุ่มนี้ ค่อยๆ พบกับ "ความยากลำบาก" (ตั้งแต่วิ่งหนีรถไฟ และวิ่งหนีหมา) ก่อนจะไปพบว่า...เมื่อเจอศพจริงๆ นอนตายอยู่ เด็กสี่คนถึงกับเกิดอาการช็อก กับโลกจริงๆ ที่โหดร้าย ที่ไม่ได้มีอะไร สวยงาม น่ารัก ตามแบบฉบับ ฮีโร่ที่ได้คิดฝันไว้ หลังได้พบศพ - พวกเขากลัวว่าชีวิตในวันข้างหน้า ทั้งหมดเดินทางกลับบ้านในบ่ายวันอาทิตย์ "ย่านคาสเซิลร็อก" ชนบทที่เรียบง่าย ที่ๆ พวกเขาเติบโตมา ไม่ใช่ คาสเซิลร็อก ที่จากไปเมื่อวันศุกร์ ทั้ง 4 คน ได้ทำวัยเด็ก หล่นหายไปในชายป่า ปีนั้น วัยเยาว์ของ Stand by me หล่นหาย เพราะการเกี่ยวข้องกับ "ความตาย" ไม่เหมือนกับวัยสาวและความเป็นเด็กไร้เดียงสาของ "รีส วิทเธอร์สปูน" ใน The man in the moon ที่เสียวัยเด็ก เพราะความรัก เธอเล่นเป็นเด็กสาวที่ไปตกหลุมรักรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่ง มีความฝัน ปรารถนาตามแบบฉบับเด็กสาวทั่วไปถึงความรัก และในบ่ายร้อนๆ วันหนึ่ง เธอก็ได้จูบแรกจากพี่ผู้ชายคนนั้น บ่ายที่อากาศร้อน แถมมีรัก - น่าจะเป็นร้อนกับรัก ที่สวยงามที่สุด ทุกอย่างพังทลายลง เมื่อเธอพบความจริงที่ว่า แท้จริงแล้ว รุ่นพี่ที่จูบเธอ กลับกลายเป็นคู่เดตของพี่สาวเธอเอง พี่สาวที่มักคุยกันก่อนนอนถึง "ผู้ชายบนดวงจันทร์"...หน้าร้อนนั้น - ดวงจันทร์ไม่มี และผู้ชายก็ไม่มา ทั้ง Stand by me และ The man in the moon ใช้ "หน้าร้อน" เป็นสัญลักษณ์สำคัญ ด้วยการเป็นบริบท ทำร้ายความเยาว์ ความไร้เดียงสา ของตัวละครเด็ก ไม่ถึงกับเป็นแผลชีวิตที่ใหญ่โตมโหฬาร ไม่ใช่คดีร้ายแรง แต่เป็น "ช่วงเวลาหนึ่ง" ที่มีผลกับจิตใจเราไปตลอดกาล และเราจะไม่มีทางลืมเรื่องราวแบบนี้ มันอาจจะเจ็บ "อยู่ลึกๆ" แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราจะนึกถึงมัน "ด้วยความรู้สึกที่ดี"



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

จากปากหมอในพื้นที่ เฝ้าระวัง 70 คนงาน เสี่ยงรับผลกระทบซีเซียม-137 ยังไม่พบการปนเปื้อนในร่างกาย